นับตั้งแต่มีการคิดค้นวงล้อ เทคโนโลยีได้ช่วยเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจของมนุษย์ ระบบอัตโนมัติในอดีตมีทั้งแรงงานทดแทนและแรงงานเสริม เครื่องจักรเข้ามาแทนที่มนุษย์ในงานบางอย่างที่มีค่าตอบแทนต่ำ (เช่น ในงานเกษตร) แต่สิ่งนี้ได้รับการชดเชยด้วยการสร้างงานใหม่ที่มีค่าตอบแทนสูงกว่า การศึกษาพบว่าคอมพิวเตอร์ไม่ได้ก่อให้เกิดการว่างงานทา เทคโนโลยี สุทธิ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถมากกว่าคอมพิวเตอร์และยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่ทราบว่าจะเป็นไปตามแนวโน้มเดียวกันหรือไม่ คำถามนี้ได้รับการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในหมู่นักเศรษฐศาสตร์และผู้กำหนดนโยบาย การสำรวจในปี 2560 ไม่พบฉันทามติที่ชัดเจนในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ว่า AI จะเพิ่มอัตราการว่างงานในระยะยาวหรือไม่ จากรายงาน "The Future of Jobs Report 2020" ของ World Economic Forumคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามาแทนที่งาน 85 ล้านตำแหน่งทั่วโลก และสร้างงานใหม่ 97 ล้านตำแหน่งภายในปี 2025 จากปี 1990 ถึง 2007 การศึกษา ในสหรัฐอเมริกา โดยDaron Acemogluนักเศรษฐศาสตร์ จาก MITแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มหุ่นยนต์หนึ่งตัวต่อพนักงานทุกๆ 1,000 คนจะลดอัตราส่วนการจ้างงานต่อประชากรลง 0.2% หรือประมาณ 3.3 คน และลดค่าจ้างลง 0.42% ความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ยังคงมีอยู่ยาวนาน ดังที่ประธานาธิบดีลินดอน จอห์นสัน ของสหรัฐฯ กล่าวในปี 2507 ว่า “เทคโนโลยีกำลังสร้างทั้งโอกาสและภาระหน้าที่ใหม่ให้กับเรา โอกาสสำหรับผลผลิตและความก้าวหน้าที่มากขึ้น ภาระผูกพันที่จะต้องแน่ใจว่าไม่มีคนทำงาน ไม่มีครอบครัวใดต้องจ่ายราคาที่ไม่ยุติธรรมเพื่อความก้าวหน้า” เมื่อลงนามในร่างกฎหมาย National Commission on Technology, Automation and Economic Progress