ReadyPlanet.com


ฝันร้ายคนหางาน สัมภาษณ์ไม่ผ่าน คนตกงานเพราะ ‘AI ก็มีอคติ’


 ตกงานเพราะ AI แย่งงาน ยังไม่น่ากลัวเท่าตกงานเพราะ “AI ไม่จ้าง”

หนึ่งใน ‘ความเชื่อ’ ที่คนมากมายคิดถึงเมื่อพูดถึงข้อดีของ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือ ‘AI’ คือความสามารถในการวิเคราะห์ แยกแยะ จัดกลุ่มและประเมินสิ่งต่างๆ ได้อย่าง “เที่ยงธรรม” กล่าวคือคนจำนวนมากเชื่อว่า AI คือระบบที่มีความเป็นกลางและปราศจากอคติ

ด้วยเหตุนี้ องค์กรน้อยใหญ่มากมายจึงพิจารณาและหันมาใช้ AI ในการคัดเลือกผู้สมัครเข้าทำงาน เพราะนอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านการจัดหาและจัดจ้างแล้ว ยังสามารถลดต้นทุนด้านเวลาและทรัพยากรบุคคลที่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการคัดสรรผู้สมัครแต่ละครั้งอีกด้วย

จากสถิติรวบรวมโดย Workable และ Demandsage เผยให้เห็นว่า AI สามารถประหยัดเวลาของฝ่ายสรรหาบุคลากรได้ถึง 44% และประหยัดเวลาของผู้ที่มีส่วนตัดสินใจถึง 67% ทำให้ตลาดของธุรกิจซอฟต์แวร์ AI ด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรมีมูลค่าสูงถึง 590.50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21 ล้านล้านบาท) ในปี 2023 และคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 942.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34 ล้านล้านบาท) ในปี 2030

เห็นได้ชัดในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 500 คนกว่า 99% ใช้ซอฟต์แวร์ AI ช่วยในส่วนการสรรหาและจัดจ้างผู้สมัคร ขณะที่ฝ่ายสรรหาบุคลากรเลือกใช้งานซอฟต์แวร์ AI ด้วยตนเองถึง 65% โดยภาพรวมแล้วองค์กรต่างๆ มีการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ AI เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2021

ผลการทำงานของ AI ก็ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจเมื่อผู้สมัครที่ปัญญาประดิษฐ์คัดเลือกมาเบื้องต้นมีโอกาสผ่านการสัมภาษณ์มากกว่า 14% และมีโอกาสตอบรับข้อเสนอจ้างงานมากกว่า 18% เรียกว่าประหยัดเงิน ประหยัดเวลา แต่ได้ผลลัพธ์ที่มี ‘คุณภาพ’ มากขึ้น

ทว่าท่ามกลางความพึงพอใจขององค์กรและฝ่ายทรัพยากรบุคคล กลับมาเสียงจากผู้สมัครจำนวนหนึ่งที่กำลังต่อต้านการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ในขั้นตอนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรนี้ โดยคนทำงานกว่า 71% ในสหรัฐอเมริกาคัดค้านการนำ AI มาเป็นเกณฑ์ตัดสินใจ และ 66% กล่าวว่าจะไม่สมัครงานองค์กรที่นำ AI มาใช้ในการประเมินและคัดสรรบุคลากร

คำถามคือทำไมถึงมีผู้ออกมาต่อต้านมากมายถึงขนาดนั้น? การไม่เห็นด้วยครั้งนี้มาจากความกลัวว่าตนเองจะไม่มีคุณสมบัติมากพอตามเกณฑ์ขององค์กร หรือแท้จริงแล้วมันมีเหตุผลเบื้องหลังมากไปกว่านั้น หนึ่งในเสียงที่น่าสนใจคือ 15% ของคนทำงานกล่าวว่า AI ไม่ได้พิจารณาใบสมัครเฉกเช่นเดียวกับวิธีของมนุษย์

Hilke Schellmann ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กและผู้เขียนหนังสือ ‘the Algorithm: How AI Can Hijack Your Career and Steal Your Future’ กล่าวว่า “เรายังไม่เคยเห็นหลักฐานมากพอที่จะสรุปได้ว่าปัญญาประดิษฐ์ไม่มีอคติหรือความลำเอียง”

หมายความว่าอย่างไร? ปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ได้มี ‘มุมมอง’ ต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ จะมีอคติหรือการตัดสินใจที่ลำเอียงได้อย่างไร?

กรณีศึกษาหนึ่งในปี 2020 ช่างแต่งหน้าประจำสาขาอังกฤษคนหนึ่งได้รับแจ้งว่าเธอจะต้องสมัครตำแหน่งที่เธอทำอยู่ใหม่อีกครั้งหนังจากการพักงานตลอดช่วงแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเธอต้องเข้ารับการประเมินผ่าน HireVue ซอฟต์แวร์ประเมินและคัดสรรด้วยปัญญาประดิษฐ์โปรแกรมหนึ่ง

ผลปรากฏว่า แม้เธอจะได้รับการประเมินด้านทักษะอื่นๆ อย่างดีเยี่ยม แต่ก็ต้องถูก ‘ให้ออกจากงาน’ เพราะคะแนน “ภาษากาย” ของเธอย่ำแย่ หลังจากกรณีแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นจึงทำให้เกิดข้อสงสัยถึงประสิทธิภาพในการประเมิน ‘รอบด้าน’ ของระบบ จนท้ายที่สุดบริษัทเจ้าของ HireVue ก็ต้องนำฟีเจอร์การวิเคราะห์ใบหน้าออกไปในปีถัดมา การร้องเรียนแบบเดียวกันยังเกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอีกมากมาย

ไม่ใช่แค่เพราะว่าเทคโนโลยีการตรวจจับและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของร่างกายและใบหน้ายังไม่แม่นยำมากพอเท่านั้น แต่การวิเคราะห์ภาษากาย หรือการวัดทักษะใดทักษะหนึ่งยังเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์ การประเมินของ AI จึงออกมาในรูปแบบการคัดเลือกแบบ ‘คร่าวๆ’ ผ่านการ ‘ด่านตัดสิน’ จากชุดข้อมูลบางประการเท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้สมัครที่ ‘ถูกปัดตก’ ส่วนมากไม่ได้รับคำอธิบายว่าตนเองได้รับการประเมินในด้านใดบ้าง และสาเหตุที่ยังไม่ผ่าน ‘เกณฑ์พิจารณา’ ดังกล่าวคืออะไร เนื่องจากเจ้าสมองกลแสนฉลาดไม่สามารถบอก ‘เหตุผลเบื้องหลัง’ การตัดสินใจนั้นๆ ได้ กล่าวคือการตัดสินใจของ AI ยังคงครุมเครือ ไม่โปร่งใส และตรวจสอบไม่ได้นั่นเอง

มีการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้สมัครคนเดียวกันเข้ารับการประเมินกับ AI ด้วยชุดข้อมูลที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าชุดข้อมูลที่มีอายุน้อยกว่าหรือเป็นเพศชายจะได้รับคะแนนการประเมินที่ดีกว่าชุดข้อมูลที่มีอายุมากกว่าหรือเป็นเพศหญิง ยกตัวอย่างเช่น คำว่า ‘บาสเกตบอล’ จะได้คะแนนมากกว่า ‘ซอฟต์บอล’ เป็นต้น

สวนทางกับทิศทางการพัฒนาทักษะทางความคิดของมนุษย์ ที่มีการตระหนักรู้และรณรงค์เรื่องความไม่เท่าเทียมทางอายุและความไม่เท่าเทียมทางเพศในการคัดเลือกคนทำงานมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ แต่ละปีจึงมีผู้สมัครมากความสามารถจำนวนมากต้องตกงานเพราะไม่ผ่านเกณฑ์พิจารณาของ AI นั่นเอง

ถึงแม้ว่า AI จะอยู่ในขั้นตอนของการเรียนรู้และอาจสามารถตระหนักรู้เท่าทันทักษะความคิดของมนุษย์ปัจจุบันได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่ตลอดระยะเวลาที่ AI ยังไม่พร้อมดีนั้นต้องมีชีวิตคนจริงๆ อีกจำนวนมากที่เสียเส้นทางชีวิตไป จนเกิดเป็นคำถามว่านักพัฒนา AI กำลังนำ “โอกาสและอนาคตของคนคนหนึ่ง” มาเป็น ‘เครื่องมือ’ ในการเทรนปัญญาประดิษฐ์ของตนอยู่หรือเปล่า?

 อยากรวยทางลัด มาลงทุนกับเราได้เลย #เฮียเก่ง999


👉ติดต่อได้ที่ติดต่อสอบถามได้ที่ : 

ลิ้งก์ไลน์ : https://bit.ly/49NEgPm

ลิ้งก์สมัคร : https://bit.ly/49NjkI5

🆔Line : @keng999  (มี@ด้วยนะคะ)


#เว็บหวยเฮียเก่ง999
#แจกเครดิตฟรี #เล่นลุ้นรวย 
#หวยไทย #หวยลาว #หวยรัฐบาล #ครบทุกหวย
#เว็บหวยออนไลน์ #ลอตเตอรี่  
#แทงหวย #เว็บแทงหวยออนไลน์ #แทงหวยไทย #เว็บแทงหวยที่ดีที่สุด

 



ผู้ตั้งกระทู้ องค์สุมายามาขอเข้าเฝ้า :: วันที่ลงประกาศ 2024-03-05 09:06:47


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2016 All Rights Reserved.